วันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2553

bmx





BMX FLATLAND คือ    
        การขี่จักรยานประเภทแฟลตแลนด์   เป็นการขี่จักรยานผาดโผนบนพื้นราบ โดยเน้นการทรงตัวและการเล่นท่าบนจักรยาน เสน่ห์ของการขี่ประเภทนี้อยู่ที่ความต่อเนื่องในการเล่นท่า  โดยจะเล่นท่าหนึ่งแล้วจะไปต่ออีกท่าหนึ่งโดยที่เท้าไม่สัมผัสพื้น    BMX  FLATLAND   ได้เข้ามาในบ้านเราเมื่อประมาณ 10กว่าปีที่แล้ว และยังคงเป็นที่นิยมจนถึงทุกวันนี้  BMX FLATLAND   เป็นกีฬาเอ็กส์ตรีมที่มีความเสี่ยงไม่มาก   สามารถที่จะเล่นได้ทุกวัย จะมีเล่นกันเป็นกลุ่มๆตามสวนสาธารณะ  ตามลานจอดรถกว้างๆ  จะกระจายกันอยู่ในทุกๆจังหวัด   โดยจะมีการจัดแข่งขันอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ  
        การแข่งขันประเภทแฟลตแลนด์จะเป็นการตัดสินจากการให้คะแนน  การแข่งก็จะคล้ายๆกับยิมนาสติกลีลา  แต่จะเป็นลีลาบนจักรยานBMX   โดยมีการแบ่งรุ่นการแข่งขันออกเป็นหลายรุ่นตามระดับฝีมือ ลักษณะการแข่งจะมีด้วยกัน 2 แบบ คือการแข่งขันภายในเวลาที่กำหนดโดยมีกรรมการเป็นผู้ให้คะแนนซึ่งจะพิจารณา จากความยากง่ายและความต่อเนื่องของท่าโดยไม่ให้เท้าสัมผัสพื้น   หากเท้าสัมผัสพื้นจะถูกหักคะแนนตามความเหมาะสม การแข่งขันอีกแบบหนึ่งคือการแข่งขันแบบตัวต่อตัว (Battle) คือการออกมาประชันท่ากันแบบตัวต่อตัว หากยังนึกภาพไม่ออกก็ให้นึกถึงการชกมวย แต่จะใช้การเล่นท่าประชันกัน ซึ่งจะแข่งขัน 3 ยก  โดยนักกีฬาจะผลัดกันออกมาแสดงท่าผาดโผน ใน 1 ยกจะเล่นท่าผาดโผนได้คนละหนึ่งชุด (ไม่ได้กำหนดเวลาและความยาวของท่าต่อเนื่องส่วนใหญ่  จะไม่เล่นท่าต่อเนื่องกันยาวมากนักเพื่อป้องกันความผิดพลาด) เมื่อครบ 3 ยก  กรรมการจะตัดสินให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะไป และยังมีการจัดแข่งแยกย่อยออกไปอีกเพื่อให้การจัดแข่งขันนั้นมีความน่าสนใจ และสนุกสนานมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น การแข่ง Best Trick  คือการแข่ง ว่าท่าของใครยากและเจ๋งที่สุดเป็นผู้ชนะการแข่งขันว่าใครเล่นท่าต่อเนื่อง ได้มากที่สุด และการแข่งขันว่าใครเล่นท่าได้นานที่สุดเป็นต้น

        ลักษณะของจักรยาน BMX FLATLAND   ช่วงของตัวรถจักรยานประเภทนี้จะสั้นกว่ารถประเภทอื่นๆ เพื่อให้ง่ายและสะดวกในการเล่นท่าผาดโผน  โครงของรถแฟลตแลนด์จะออกแบบมาให้สะดวกในการเล่นท่าและมีน้ำหนักเบา  รูปทรงจะโค้งบ้างเว้าบ้าง  ชิ้นส่วนต่างๆก็จะแตกต่างกันกับประเภทอื่นๆ  บางท่านที่ยังไม่เคยรู้จักกับBMX ผาดโผนอาจจะยังแยกไม่ออก  มองผิวผืนก็จะดูเหมือนๆกันและอาจจะทำให้ท่านเลือกใช้รถผิดประเภทได้ ซึ่งจะกล่าวในบทต่อไป

        ทักษะของการขี่จักรยาน BMX  FLATLAND   โดยหลักๆเลยก็จะเน้นการทรงตัวบนรถจักยานที่เคลื่อนไปเพียงล้อเดียว โดยเท้าของเราจะยื่นอยู่บนที่พักเท้า ( Peg) ที่อยู่ตรงแกนล้อทั้งล้อหน้าและหลัง   ทักษะการใช้เท้าไถล้อเพื่อให้รถได้เคลื่อนที่ไป  และทักษะการต่อเนื่องของแต่ละท่า   การขี่จักรยาน BMX FLATLAND  จำเป็นต้องใช้สมาธิ  ความพยายาม  และความอดทนสักนิดหนึ่งเพราะการฝึกหัดในแต่ละท่าอาจะจะต้องใช้เวลามากพอดู บางท่าอาจจะใช้เวลาเป็นเดือนๆ แต่บางท่าก็อาจใช้เวลาแค่ไม่กี่วัน แต่นั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับความขยันฝึกซ้อมและความอดทน  ถ้าหากคุณเป็นคนใจร้อนแล้วละก็  ลองหันมาหัดเล่นจักรยาน BMX  FLATLAND  ดู   มันอาจจะทำให้คุณเป็นคนใจเย็นและมีสมาธิมากขึ้นก็ได้

BMX FLATLAND    

        การขี่จักรยานประเภทแฟลตแลนด์   เป็นการขี่จักรยานผาดโผนบนพื้นราบ โดยเน้นการทรงตัวและการเล่นท่าบนจักรยาน เสน่ห์ของการขี่ประเภทนี้อยู่ที่ความต่อเนื่องในการเล่นท่า  โดยจะเล่นท่าหนึ่งแล้วจะไปต่ออีกท่าหนึ่งโดยที่เท้าไม่สัมผัสพื้น    BMX  FLATLAND   ได้เข้ามาในบ้านเราเมื่อประมาณ 10กว่าปีที่แล้ว และยังคงเป็นที่นิยมจนถึงทุกวันนี้  BMX FLATLAND   เป็นกีฬาเอ็กส์ตรีมที่มีความเสี่ยงไม่มาก   สามารถที่จะเล่นได้ทุกวัย จะมีเล่นกันเป็นกลุ่มๆตามสวนสาธารณะ  ตามลานจอดรถกว้างๆ  จะกระจายกันอยู่ในทุกๆจังหวัด   โดยจะมีการจัดแข่งขันอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ  





        การแข่งขันประเภทแฟลตแลนด์จะเป็นการตัดสินจากการให้คะแนน  การแข่งก็จะคล้ายๆกับยิมนาสติกลีลา  แต่จะเป็นลีลาบนจักรยานBMX   โดยมีการแบ่งรุ่นการแข่งขันออกเป็นหลายรุ่นตามระดับฝีมือ ลักษณะการแข่งจะมีด้วยกัน 2 แบบ คือการแข่งขันภายในเวลาที่กำหนดโดยมีกรรมการเป็นผู้ให้คะแนนซึ่งจะพิจารณา จากความยากง่ายและความต่อเนื่องของท่าโดยไม่ให้เท้าสัมผัสพื้น   หากเท้าสัมผัสพื้นจะถูกหักคะแนนตามความเหมาะสม การแข่งขันอีกแบบหนึ่งคือการแข่งขันแบบตัวต่อตัว (Battle) คือการออกมาประชันท่ากันแบบตัวต่อตัว หากยังนึกภาพไม่ออกก็ให้นึกถึงการชกมวย แต่จะใช้การเล่นท่าประชันกัน ซึ่งจะแข่งขัน 3 ยก  โดยนักกีฬาจะผลัดกันออกมาแสดงท่าผาดโผน ใน 1 ยกจะเล่นท่าผาดโผนได้คนละหนึ่งชุด (ไม่ได้กำหนดเวลาและความยาวของท่าต่อเนื่องส่วนใหญ่  จะไม่เล่นท่าต่อเนื่องกันยาวมากนักเพื่อป้องกันความผิดพลาด) เมื่อครบ 3 ยก  กรรมการจะตัดสินให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะไป และยังมีการจัดแข่งแยกย่อยออกไปอีกเพื่อให้การจัดแข่งขันนั้นมีความน่าสนใจ และสนุกสนานมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น การแข่ง Best Trick  คือการแข่ง ว่าท่าของใครยากและเจ๋งที่สุดเป็นผู้ชนะการแข่งขันว่าใครเล่นท่าต่อเนื่อง ได้มากที่สุด และการแข่งขันว่าใครเล่นท่าได้นานที่สุดเป็นต้น

        ลักษณะของจักรยาน BMX FLATLAND   ช่วงของตัวรถจักรยานประเภทนี้จะสั้นกว่ารถประเภทอื่นๆ เพื่อให้ง่ายและสะดวกในการเล่นท่าผาดโผน  โครงของรถแฟลตแลนด์จะออกแบบมาให้สะดวกในการเล่นท่าและมีน้ำหนักเบา  รูปทรงจะโค้งบ้างเว้าบ้าง  ชิ้นส่วนต่างๆก็จะแตกต่างกันกับประเภทอื่นๆ  บางท่านที่ยังไม่เคยรู้จักกับBMX ผาดโผนอาจจะยังแยกไม่ออก  มองผิวผืนก็จะดูเหมือนๆกันและอาจจะทำให้ท่านเลือกใช้รถผิดประเภทได้ ซึ่งจะกล่าวในบทต่อไป

        ทักษะของการขี่จักรยาน BMX  FLATLAND   โดยหลักๆเลยก็จะเน้นการทรงตัวบนรถจักยานที่เคลื่อนไปเพียงล้อเดียว โดยเท้าของเราจะยื่นอยู่บนที่พักเท้า ( Peg) ที่อยู่ตรงแกนล้อทั้งล้อหน้าและหลัง   ทักษะการใช้เท้าไถล้อเพื่อให้รถได้เคลื่อนที่ไป  และทักษะการต่อเนื่องของแต่ละท่า   การขี่จักรยาน BMX FLATLAND  จำเป็นต้องใช้สมาธิ  ความพยายาม  และความอดทนสักนิดหนึ่งเพราะการฝึกหัดในแต่ละท่าอาจะจะต้องใช้เวลามากพอดู บางท่าอาจจะใช้เวลาเป็นเดือนๆ แต่บางท่าก็อาจใช้เวลาแค่ไม่กี่วัน แต่นั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับความขยันฝึกซ้อมและความอดทน  ถ้าหากคุณเป็นคนใจร้อนแล้วละก็  ลองหันมาหัดเล่นจักรยาน BMX  FLATLAND  ดู   มันอาจจะทำให้คุณเป็นคนใจเย็นและมีสมาธิมากขึ้นก็ได้

BMX FLATLAND    

        การขี่จักรยานประเภทแฟลตแลนด์   เป็นการขี่จักรยานผาดโผนบนพื้นราบ โดยเน้นการทรงตัวและการเล่นท่าบนจักรยาน เสน่ห์ของการขี่ประเภทนี้อยู่ที่ความต่อเนื่องในการเล่นท่า  โดยจะเล่นท่าหนึ่งแล้วจะไปต่ออีกท่าหนึ่งโดยที่เท้าไม่สัมผัสพื้น    BMX  FLATLAND   ได้เข้ามาในบ้านเราเมื่อประมาณ 10กว่าปีที่แล้ว และยังคงเป็นที่นิยมจนถึงทุกวันนี้  BMX FLATLAND   เป็นกีฬาเอ็กส์ตรีมที่มีความเสี่ยงไม่มาก   สามารถที่จะเล่นได้ทุกวัย จะมีเล่นกันเป็นกลุ่มๆตามสวนสาธารณะ  ตามลานจอดรถกว้างๆ  จะกระจายกันอยู่ในทุกๆจังหวัด   โดยจะมีการจัดแข่งขันอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ  





        การแข่งขันประเภทแฟลตแลนด์จะเป็นการตัดสินจากการให้คะแนน  การแข่งก็จะคล้ายๆกับยิมนาสติกลีลา  แต่จะเป็นลีลาบนจักรยานBMX   โดยมีการแบ่งรุ่นการแข่งขันออกเป็นหลายรุ่นตามระดับฝีมือ ลักษณะการแข่งจะมีด้วยกัน 2 แบบ คือการแข่งขันภายในเวลาที่กำหนดโดยมีกรรมการเป็นผู้ให้คะแนนซึ่งจะพิจารณา จากความยากง่ายและความต่อเนื่องของท่าโดยไม่ให้เท้าสัมผัสพื้น   หากเท้าสัมผัสพื้นจะถูกหักคะแนนตามความเหมาะสม การแข่งขันอีกแบบหนึ่งคือการแข่งขันแบบตัวต่อตัว (Battle) คือการออกมาประชันท่ากันแบบตัวต่อตัว หากยังนึกภาพไม่ออกก็ให้นึกถึงการชกมวย แต่จะใช้การเล่นท่าประชันกัน ซึ่งจะแข่งขัน 3 ยก  โดยนักกีฬาจะผลัดกันออกมาแสดงท่าผาดโผน ใน 1 ยกจะเล่นท่าผาดโผนได้คนละหนึ่งชุด (ไม่ได้กำหนดเวลาและความยาวของท่าต่อเนื่องส่วนใหญ่  จะไม่เล่นท่าต่อเนื่องกันยาวมากนักเพื่อป้องกันความผิดพลาด) เมื่อครบ 3 ยก  กรรมการจะตัดสินให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะไป และยังมีการจัดแข่งแยกย่อยออกไปอีกเพื่อให้การจัดแข่งขันนั้นมีความน่าสนใจ และสนุกสนานมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น การแข่ง Best Trick  คือการแข่ง ว่าท่าของใครยากและเจ๋งที่สุดเป็นผู้ชนะการแข่งขันว่าใครเล่นท่าต่อเนื่อง ได้มากที่สุด และการแข่งขันว่าใครเล่นท่าได้นานที่สุดเป็นต้น

        ลักษณะของจักรยาน BMX FLATLAND   ช่วงของตัวรถจักรยานประเภทนี้จะสั้นกว่ารถประเภทอื่นๆ เพื่อให้ง่ายและสะดวกในการเล่นท่าผาดโผน  โครงของรถแฟลตแลนด์จะออกแบบมาให้สะดวกในการเล่นท่าและมีน้ำหนักเบา  รูปทรงจะโค้งบ้างเว้าบ้าง  ชิ้นส่วนต่างๆก็จะแตกต่างกันกับประเภทอื่นๆ  บางท่านที่ยังไม่เคยรู้จักกับBMX ผาดโผนอาจจะยังแยกไม่ออก  มองผิวผืนก็จะดูเหมือนๆกันและอาจจะทำให้ท่านเลือกใช้รถผิดประเภทได้ ซึ่งจะกล่าวในบทต่อไป

        ทักษะของการขี่จักรยาน BMX  FLATLAND   โดยหลักๆเลยก็จะเน้นการทรงตัวบนรถจักยานที่เคลื่อนไปเพียงล้อเดียว โดยเท้าของเราจะยื่นอยู่บนที่พักเท้า ( Peg) ที่อยู่ตรงแกนล้อทั้งล้อหน้าและหลัง   ทักษะการใช้เท้าไถล้อเพื่อให้รถได้เคลื่อนที่ไป  และทักษะการต่อเนื่องของแต่ละท่า   การขี่จักรยาน BMX FLATLAND  จำเป็นต้องใช้สมาธิ  ความพยายาม  และความอดทนสักนิดหนึ่งเพราะการฝึกหัดในแต่ละท่าอาจะจะต้องใช้เวลามากพอดู บางท่าอาจจะใช้เวลาเป็นเดือนๆ แต่บางท่าก็อาจใช้เวลาแค่ไม่กี่วัน แต่นั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับความขยันฝึกซ้อมและความอดทน  ถ้าหากคุณเป็นคนใจร้อนแล้วละก็  ลองหันมาหัดเล่นจักรยาน BMX  FLATLAND  ดู   มันอาจจะทำให้คุณเป็นคนใจเย็นและมีสมาธิมากขึ้นก็ได้